โรงไฟฟ้าขยะในพอร์ตโฟลิโอเพิ่มกำไรพันล้าน

บริษัท Gulf Energy Development Public Company Limited (GULF) ได้เปิดเผยถึงการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะและโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรมในวันที่ 8 มีนาคม 2567

โดยได้ลงนามสัญญาผู้ถือหุ้นกับบริษัท GWTE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GULF เพื่อเข้าลงทุนในโครงการหลายๆ โครงการ โดยรวมมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นกว่า 20,800 ล้านบาท ดังนี้

  • โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม: GULF ได้ลงนามสัญญาผู้ถือหุ้นกับบริษัท GWTE เพื่อเข้าลงทุนใน GGP ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจำนวน 10 โครงการ โดยมีความสามารถในการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 80 เมกะวัตต์ โครงการนี้ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ระยะเวลา 20 ปี และกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2569 มูลค่าโครงการรวมมากกว่า 15,000 ล้านบาท
  • โครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิง: GULF ได้ลงนามสัญญาผู้ถือหุ้นกับ BWG เพื่อเข้าร่วมลงทุนใน CC ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรมจำนวน 3 โครงการ โครงการนี้มีมูลค่ารวมมากกว่า 2,600 ล้านบาท เพื่อจำหน่ายเชื้อเพลิง SRF ให้กับโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมทั้ง 12 โครงการ
  • การเพิ่มทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม: ในรายละเอียดอื่นๆ ยังรวมถึงการลงนามสัญญาผู้ถือหุ้นระหว่าง ETC, GWTE, และ WTX เพื่อเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจำนวน 2 โครงการ ภายใต้ SIP โครงการนี้มีมูลค่ารวมมากกว่า 3,200 ล้านบาท

หลังจากธุรกรรมทางการเงินที่กล่าวถึงข้างต้น กลุ่มบริษัทได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. ภายใต้รูปแบบ Feed-in-Tariff (FiT) จำนวน 12 โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมในไทย โดยมีขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวมกว่า 96 เมกะวัตต์

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของ GULF เปิดเผยว่า โครงการเหล่านี้คาดว่าจะสร้างรายได้รวมทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาทต่อปี และสามารถทำกำไรให้กับบริษัทตามสัดส่วนที่เข้าไปลงทุน รวมทั้งสิ้น 700-800 ล้านบาทต่อปี โดยโครงการส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2569 และในปี 2570 เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโดยตรง

ทั้งนี้ แนวโน้มการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ยังคงดำเนินไปตามแผนที่วางไว้โดยเรียบร้อย และจะมีการช่วยผลักดันเป้าหมายรายได้รวมของปี 2567 ให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ร้อยละ 25-30 จากปีก่อนหน้า

ส่วนใหญ่มาจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติหินกองหน่วยที่ 1 และโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ GPD หน่วยที่ 3 และ 4 ในเดือนมีนาคม และตุลาคม 2567 ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของกลุ่ม GULF1 ที่จะเริ่มเปิดดำเนินการเพิ่มเติมอีก 120 เมกะวัตต์ในปีนี้ ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าเป้าหมายรายได้ของปี 2567 จะได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสมในระดับที่ตั้งไว้โดยกลุ่มบริษัท GULF ในทางต่อไป