วันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ดาวโจนส์รายงานว่าดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมของมันได้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ถึง 211.02 จุดหรือเพิ่มขึ้น 0.56% เมื่อปิดที่ 37,986.40 จุดอย่างตรงข้ามกับนั้น ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลง 0.88% และดัชนีแนสแด็กร่วงลงถึง 2.05% เมื่อปิดที่ 15,282.01 จุด
เป็นที่น่าสังเกตว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ได้รับความเสียหายมากกว่า 500 จุดในช่วงเช้า หลังมีรายงานว่าอิสราเอลได้ทำการโจมตีอิหร่าน แม้ว่าสถานการณ์นั้นจะฟื้นตัวขึ้นในภายหลัง นักลงทุนก็ยังไม่คาดว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะเป็นเหตุให้เกิดสงครามในภูมิภาคได้โดยตรง
นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียได้เผยแพร่ว่ารัสเซียได้แจ้งต่ออิสราเอลว่า อิหร่านไม่มีความต้องการให้ความขัดแย้งลุกลามออกไป
สื่อรายงานของโรยเตอร์อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านระบุว่า อิหร่านไม่มีแผนที่จะตอบโต้อิสราเอลในทันที
นอกจากนี้ สื่อรายงานเช้าวันนี้ว่า อิสราเอลได้ส่งโดรน 3 ลำเข้าโจมตีเมืองอิสฟาฮาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของอิหร่าน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางใต้มากกว่า 400 กิโลเมตร ขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านสามารถทำลายโดรนเหล่านี้ได้
การสื่อสารระหว่างรัสเซียกับอิสราเอลและอิหร่านเป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจในสถานการณ์ปัจจุบันของภูมิภาค โดยการเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้อาจมีผลกระทบต่อการแก้ไขสถานการณ์ในอนาคต
การเกิดเหตุการณ์ล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีระหว่างอิสราเอลและอิหร่านยังไม่มีการยืนยันว่ามาจากที่มาใด นั่นเป็นความเห็นที่ถูกกล่าวของเจ้าหน้าที่อิหร่านที่ไม่ต้องการออกนาม
ตามรายงานจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ มีการกล่าวอ้างจากเจ้าหน้าที่อิสราเอลว่าการโจมตีนั้นเป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ล้างลายภาพลักษณ์ของอิหร่าน โดยอิสราเอลมีความตั้งใจที่จะส่งสัญญาณแก่อิหร่านว่า อิสราเอลมีความสามารถในการใช้อาวุธโจมตีถึงใจกลางของอิหร่าน
นายนาทาน อีเชล คนสนิทของนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวว่า “ไม่มีใครต้องการทำสงครามกับอิหร่านในตอนนี้ เราเพียงแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเราสามารถแทรกซึมและโจมตีภายในดินแดนของอิหร่านได้
แต่พวกเขาไม่สามารถโจมตีถึงดินแดนของเราได้ ข้อความที่เราต้องการสื่อออกมามีความสำคัญมากกว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และขณะนี้เรามีภารกิจที่สำคัญกว่าในฉนวนกาซาและเลบานอน”
การหารือและการสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญในการแก้ไขสถานการณ์ในภูมิภาค ซึ่งการเผยแพร่ข้อมูลนี้อาจมีผลกระทบต่อความเข้าใจและการดำเนินการในอนาคต
