ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (27 มี.ค.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเฮลท์แคร์ ขณะที่หุ้น H&M ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าแฟชั่นรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 9 เดือนขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
ทั้งนี้

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 511.75 จุด เพิ่มขึ้น 0.66 จุด หรือ +0.13%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,204.81 จุด เพิ่มขึ้น 20.06 จุด หรือ +0.25%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,477.09 จุด เพิ่มขึ้น 92.74 จุด หรือ +0.50% และ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,931.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.02 จุด หรือ +0.01%1
หุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้น 2.5% โดยหุ้น H&M พุ่งขึ้น 15.2% หลังรายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่นายแดเนียล เออร์เวอร์ ซีอีโอคนใหม่เปิดเผยว่า ผู้ซื้อชื่นชอบคอลเลกชันฤดูใบไม้ผลิของ H&M

ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น 6.8% แล้วในไตรมาสนี้ และมีแนวโน้มบวกเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน โดยการส่งสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากธนาคารกลางรายใหญ่ต่าง ๆ และการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้แรงหนุนจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ช่วยหนุนดัชนีสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์

จุดสนใจของตลาดสัปดาห์นี้จะอยู่ที่การเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจบ่งชี้กำหนดเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังนายปิเอโร ซิโปลโลเน กรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ECB มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในกลางปี 2568 เนื่องจากการขยายตัวของค่าจ้างชะลอลง

ธนาคารกลางสวีเดนตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.00% ตามคาด และระบุว่าขณะนี้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงมากพอที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ในไม่กี่เดือนข้างหน้าหุ้นดอยซ์แบงก์ พุ่ง 2.7% แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี หลังมอร์แกน สแตนลีย์ แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นตัวนี้ตลาดหุ้นยุโรปจะปิดทำการในวันศุกร์นี้และวันจันทร์หน้าเนื่องในวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์